กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมช่วยให้การเรียนเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ ภาษาไทย มัธยม (คุณครูจำเนียร อินทร์บุหรั่น)


การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้เรียน เพื่อพัฒนาความคิดวิเคราะห์ การทำงานร่วมกัน และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ หนึ่งในแนวทางที่ได้รับความนิยมคือ กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning: PL) ซึ่งเน้นการมีปฏิสัมพันธ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างครูและผู้เรียน สำหรับวรรณคดีไทยเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ ถือเป็นวรรณคดีที่มีคุณค่า ทั้งในด้านวรรณศิลป์และสาระทางสังคม เนื้อหาเกี่ยวกับผลกระทบจากความแตกแยกและการขาดความสามัคคี ทำให้เรื่องนี้เหมาะสมที่จะนำมาสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เชิงลึกและสามารถประยุกต์ข้อคิดไปใช้ในชีวิตประจำวันได้


กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เริ่มต้นจากการนำผู้เรียนเข้าสู่บทเรียนด้วยการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น “ความสามัคคีสำคัญอย่างไรต่อสังคม” หรือ “อะไรคือผลเสียของความแตกแยก” ครูอธิบายภาพรวมของเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ พร้อมแจกบทตอนสำคัญให้นักเรียนอ่านในกลุ่มย่อย โดยแต่ละกลุ่มจะมีหน้าที่วิเคราะห์เนื้อหาวรรณคดี ทั้งด้านเนื้อเรื่อง ฉันทลักษณ์ และข้อคิดที่ได้รับ นักเรียนในแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการวิเคราะห์ เช่น การตีความเหตุการณ์ในเรื่อง การแสดงความเห็นต่อการแตกความสามัคคี  ในสังคม และเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในยุคปัจจุบัน ทั้งนี้ การอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกลุ่มช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงเนื้อหากับประเด็นทางสังคมและชีวิตจริงได้ นอกจากนี้ครูยังส่งเสริมการคิดเชิงสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรม เช่น การ์ดเกมภาษาไทย การบันทึกในสมุดฝึก การนำเสนอหน้าชั้นเรียน และกิจกรรมวันภาษาไทยแห่งชาติ

กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมช่วยให้การเรียนเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์มีความหมายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนไม่เพียงได้รับความรู้ด้านวรรณคดีไทย แต่ยังได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ การทำงานร่วมกัน และการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งข้อคิดจากเรื่องยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกด้านความสามัคคีและผลเสียของความแตกแยกในสังคม กระบวนการเรียนรู้นี้เป็นแนวทางที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และพัฒนาตนเองให้พร้อมเผชิญกับความท้าทายในโลกปัจจุบัน

Message us