การฟังเป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานที่สำคัญของการเรียนรู้ภาษา ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถรับรู้และเข้าใจสารจากผู้พูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ เช่น การพูด การอ่าน และการเขียน อย่างไรก็ตาม ในบริบทของการเรียนการสอนภาษาไทย การพัฒนาทักษะการฟังยังคงเป็นความท้าทายสำหรับครูผู้สอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่สื่อการสอนและกิจกรรมในชั้นเรียนต้องแข่งขันกับสื่อบันเทิงต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย
บทเพลงเป็นสื่อที่มีศักยภาพสูงในการใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาทักษะการฟัง เนื่องจากเป็นสื่อที่เข้าถึงง่าย ช่วยสร้างความสนุกสนานและแรงจูงใจในการเรียนรู้ ทั้งยังช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษา เช่น การจับใจความสำคัญ การตีความ และการวิเคราะห์สารได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบทเพลงที่มีเนื้อหาเชิงวรรณคดี เช่น “มัทนะพาธา” ผลงานวรรณคดีชิ้นสำคัญของรัชกาลที่ 6 ซึ่งมีความงดงามในด้านภาษาและวัฒนธรรม ทั้งยังสะท้อนคุณค่าทางศีลธรรมและสังคมที่เหมาะแก่การปลูกฝังความคิดเชิงวิพากษ์และจินตนาการแก่ผู้เรียน
“มัทนะพาธา” ในรูปแบบของบทเพลง มีจังหวะทำนองที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เรียน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างอารมณ์ร่วมและความเข้าใจในเนื้อหาวรรณคดีได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การใช้บทเพลงเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้จึงน่าจะช่วยพัฒนาความสามารถในการฟังของผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดการเรียนรู้ผ่านบทเพลงจากเรื่อง มัทนะพาธา มีผลต่อการพัฒนาความสามารถในการฟังของผู้เรียน โดยส่งผลให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทั้งในด้านการฟังเชิงความเข้าใจและเชิงวิเคราะห์ รวมถึงส่งเสริมความสนใจและทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้วรรณคดีไทย การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาความสามารถในการฟังของผู้เรียนโดยการจัดการเรียนรู้ผ่านบทเพลงเรื่อง “มัทนะพาธา” เพื่อให้การเรียนรู้มีความสนุกสนาน น่าสนใจ และส่งเสริมการพัฒนาทักษะการฟังของผู้เรียนได้อย่างยั่งยืน